หลังจากที่ความต้องการของตลาด Smartphone ทวีความรุนแรงมากขึ้นจนสามารถเข้ามาแทนที่ตลาด PDA phone แบบเดิมๆ ที่เคยแข่งขันกันอย่างดุเดือดก่อนหน้านี้ได้แล้ว จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ผลิต Smartphone หลายๆ ยี่ห้อหันมาพัฒนาประสิทธิภาพให้กับโทรศัพท์มือถือของตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดทาง RIM เจ้าของบริษัทโทรศัพท์มือถือแบรนด์ดังอย่าง BlackBerry ออกมาประกาศยืนยันว่าจะนำระบบปฏิบัติการ QNX ที่ใช้ใน Tablet มาติดตั้งใน Smartphone BlackBerry ด้วย ซึ่งคาดว่าทาง RIM จะนำ QNX นี้มาพัฒนาเป็น BlackBerry OS เวอร์ชัน 7.0 ในอนาคตนั่นเอง
ซึ่งเหตุผลที่ RIM ตัดสินในนำ QNX มาใช้ใน Smartphone นั้น ก็เนื่องมาจากการที่ RIM ตัดสินใจซื้อกิจการบริษัทผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการลินุกซ์นามว่า QNX เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานั่นเอง การซื้อกิจการในครั้งนี้ทำให้ RIM เริ่มจากการเปิดตัว Tablet ของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ในชื่อว่า PlayBook ซึ่ง PlayBook นี้เองได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์แรกของ RIM ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ QNX นี้ ซึ่งเจ้า PlayBook นี้ก็ได้รับกระแสความสนใจและการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมชมชอบ BlackBerry เป็นทุนเดิมอยู่แล้วไม่น้อยเลยทีเดียว
การนำระบบปฏิบัติการ QNX มาใช้กับโทรศัพท์มือถือ BlackBerry นั้นทำให้นักวิเคราะห์หลายๆ ท่านเชื่อว่า BlackBerry จะมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว ซึ่ง QNX นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างความสามารถของ IOS ของแอปเปิลและ webOS ของปาล์มเข้าไว้ด้วยกัน แต่ระบบปฏิบัติการ QNX นี้ก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ที่จำนวนของแอพพลิเคชันที่มีเพียงแค่ 10,000 แอพพลิเคชันซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างน้อยและยังคงด้อยกว่าทางค่ายอื่นอยู่บ้าง จึงทำให้คาดเดาได้ว่าก่อนที่ทาง RIM จะนำ QNX มาใช้ใน BlackBerry นั้นคงต้องมีการพัฒนาความสามารถกันมากกว่านี้อีก ซึ่งเราคงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าจะได้เห็น BlackBerry ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ QNX กันเมื่อไร แต่ที่แน่ๆ สำหรับคนที่เป็นสาวก BlackBerry ตัวจริง สามารถจับจองเป็นเจ้าของ BlackBerry 3 รุ่นใหม่ล่าสุดกันได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น BlackBerry Torch 9800, BlackBerry Bold 9780 และ BlackBerry Curve 3G ซึ่ง BlackBerry 9800 ราคา เครื่องศูนย์อยู่ที่ 21,900 บาท ส่วน ราคา BlackBerry Bold 9780 อยู่ที่ 17,900 บาท และราคา BlackBerry Curve 3G อยู่ที่ 12,500 บาท
BlackBerry Apollo
ทุกวันนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักโทรศัพท์มือถือ BlackBerry อย่างแน่นอน ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ และความสามารถที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ BlackBerry กลายเป็นโทรศัพท์มือถือที่ได้รับความนิยมในบ้านเราอย่างรวดเร็ว และรุ่นที่ความสามารถครบครัน และราคาสบายกระเป๋านั้นคงต้องยกให้กับ BlackBerry ตระกูล Curve นั่นเอง
BlackBerry Curve smartphone ที่ได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มวัยรุ่นในบ้านเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น BlackBerry Curve 8520 หรือ BlackBerry Curve 3G ที่เพิ่งจะวางจำหน่ายในบ้านเราไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง มาในปีนี้ BlackBerry Curve ยังได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งกับรุ่นล่าสุดที่ทาง RIM ให้ชื่อว่า BlackBerry Apollo ซึ่งจุดเด่นด้านรูปทรงของ BlackBerry Apollo นั้น อยู่ที่รูปแบบของปุ่มกดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตระกูล Curve และความบางบวกกับขนาดที่เล็กกว่า BlackBerry รุ่นอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง BlackBerry Apollo นี้จะมีความบางเพียงแค่ 11 มม. เท่านั้น ซึ่งคาดว่า RIM จะนำ BlackBerry Apollo นี้เข้ามาวางจำหน่ายแทนที่ BlackBerry Curve 8520 นั่นเอง ส่วนคุณสมบัติภายในตัวเครื่องประกอบด้วยหน้าจอความละเอียด 480×360 พิกเซล รวมถึงกล้องถ่ายภาพที่มีความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลชในตัว การใช้งานซีพียู Tavor MG-1 ที่ความเร็ว 800 MHz ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีความเร็วเพียงแค่ 624MHz และแรมขนาด 512MB พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด BlackBerry OS 6.1 อีกด้วย นอกจากนี้ BlackBerry Apollo ยังสามารถรองรับระบบ 3G ได้อีกด้วย ถ้าดูจากความสามารถเหล่านี้แล้ว BlackBerry Apollo คงเป็น BlackBerry อีกรุ่นหนึ่งที่น่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนข้อมูลเรื่องราคา BlackBerry Curve Apollp นั้น ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการแต่อย่างได้ งานนี้เราคงทำได้เพียงติดตามและรอฟังข่าวคราวความเคลื่อนไหวจากทาง RIM กันต่อไปเท่านั้น
อยากรู้ ราคา BlackBerry Curve เชิญอ่านจากเว็บเพจนี้
BlackBerry Curve smartphone ที่ได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มวัยรุ่นในบ้านเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น BlackBerry Curve 8520 หรือ BlackBerry Curve 3G ที่เพิ่งจะวางจำหน่ายในบ้านเราไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง มาในปีนี้ BlackBerry Curve ยังได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งกับรุ่นล่าสุดที่ทาง RIM ให้ชื่อว่า BlackBerry Apollo ซึ่งจุดเด่นด้านรูปทรงของ BlackBerry Apollo นั้น อยู่ที่รูปแบบของปุ่มกดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตระกูล Curve และความบางบวกกับขนาดที่เล็กกว่า BlackBerry รุ่นอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง BlackBerry Apollo นี้จะมีความบางเพียงแค่ 11 มม. เท่านั้น ซึ่งคาดว่า RIM จะนำ BlackBerry Apollo นี้เข้ามาวางจำหน่ายแทนที่ BlackBerry Curve 8520 นั่นเอง ส่วนคุณสมบัติภายในตัวเครื่องประกอบด้วยหน้าจอความละเอียด 480×360 พิกเซล รวมถึงกล้องถ่ายภาพที่มีความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลชในตัว การใช้งานซีพียู Tavor MG-1 ที่ความเร็ว 800 MHz ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีความเร็วเพียงแค่ 624MHz และแรมขนาด 512MB พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด BlackBerry OS 6.1 อีกด้วย นอกจากนี้ BlackBerry Apollo ยังสามารถรองรับระบบ 3G ได้อีกด้วย ถ้าดูจากความสามารถเหล่านี้แล้ว BlackBerry Apollo คงเป็น BlackBerry อีกรุ่นหนึ่งที่น่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนข้อมูลเรื่องราคา BlackBerry Curve Apollp นั้น ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการแต่อย่างได้ งานนี้เราคงทำได้เพียงติดตามและรอฟังข่าวคราวความเคลื่อนไหวจากทาง RIM กันต่อไปเท่านั้น
อยากรู้ ราคา BlackBerry Curve เชิญอ่านจากเว็บเพจนี้
BlackBerry Dakota
ตลอดปี 2553 ที่ผ่านมาตลาด Smartphone และ PDA phone ในบ้านเราทวีความรุนแรงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งโทรศัพท์มือถือที่มาแรงในบ้านเราก็คงจะหนีไม่พ้น BlackBerry นั่นเอง ที่ไม่ว่าเราจะเดินไปไหนก็มักจะต้องเห็นใครหลายคนหยิบเอาเจ้า Blackberry ขึ้นมาแชตกันอย่างเมามัน จนกลายเป็นกระแสแฟชั่นที่มาแรงมากกระแสหนึ่ง เรียกได้ว่าถ้าใครไม่มีถือว่าเชยกันเลยทีเดียว ซึ่งทางเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหลายก็ได้มีการเปิดตัว BlackBerry รุ่นใหม่ๆ มาเอาใจสาวก BB ตลอดทั้งปีกันอย่างไม่หยุดหย่อน และล่าสุดก็เพิ่งทำการเปิดตัวจำหน่าย BB 3 รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการกันไปเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ว่าจะเป็น BlackBerry Torch 9800, BlackBerry Curve 3G และ BlackBerry Bold 9780 โดยที่ BlackBerry 9800 ราคา เครื่องศูนย์อยู่ที่ 21,900 บาท BlackBerry Curve 3G ราคา 12,500 บาท ส่วน ราคา BlackBerry Bold 9780 นั้นอยู่ที่ 17,900 บาท ซึ่งก็คงเป็นที่ถูกอกถูกใจสาวก BB กันมิใช้น้อย มาปีนี้ RIM ก็ยังไม่หยุดพัฒนาโทรศัพท์มือถือ BlackBerry โดยออกมาเปิดตัว BlackBerry รุ่นใหม่ล่าสุด และความสามารถใหม่ๆ ที่น่าสนใจไม่น้อยใน BlackBerry Dakota
BlackBerry Dakota ถือเป็น BlackBerry ตระกูล Bold รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง RIM เพิ่งจะทำการเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งจากข้อมูลยังไม่มีการระบุรหัสรุ่นอย่างชัดเจน มีเพียง Codename เรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่า Dakota เท่านั้น ซึ่งจากแหล่งข้อมูลของ RIM พบว่าสเป็คภายในเครื่องรุ่นนี้มีการอัพเกรดความสามารถเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 2.8 นิ้ว พร้อมความละเอียดสูงถึง 640×480 พิกเซล ปุ่มกดแบบ QWERTY เต็มรูปแบบ และการรองรับคลื่นความถี่ 3G บวกกับแรม 768 MB อีกทั้งยังมีหน่วยความจำภายในที่มากถึง 4GB กันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่พิเศษสุดคือ Dakota จะเป็น BlackBerry รุ่นแรกที่สามารถบันทึกวิดีโอระดับ HD ผ่านกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลได้ นอกจากนี้ Dakota ยังรองรับ ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6.1 ที่จะมาพร้อมกับ Motion sensor, Accelerometer และ Compass ด้วย ซึ่งคาดว่า Dakota อาจเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน CTIA ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนมีนาคมนี้ หรือไม่ก็อาจจะต้องรอดูกันในงานมหกรรม BlackBerry World Expo ต้นเดือนพฤษภาคมเลยก็ได้ งานนี้สาวก BB ทั้งหลายคงต้องติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวและกำหนดการวางจำหน่ายที่แน่นอนอย่างใกล้ชิดกันต่อไป
BlackBerry Dakota ถือเป็น BlackBerry ตระกูล Bold รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง RIM เพิ่งจะทำการเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งจากข้อมูลยังไม่มีการระบุรหัสรุ่นอย่างชัดเจน มีเพียง Codename เรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่า Dakota เท่านั้น ซึ่งจากแหล่งข้อมูลของ RIM พบว่าสเป็คภายในเครื่องรุ่นนี้มีการอัพเกรดความสามารถเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 2.8 นิ้ว พร้อมความละเอียดสูงถึง 640×480 พิกเซล ปุ่มกดแบบ QWERTY เต็มรูปแบบ และการรองรับคลื่นความถี่ 3G บวกกับแรม 768 MB อีกทั้งยังมีหน่วยความจำภายในที่มากถึง 4GB กันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่พิเศษสุดคือ Dakota จะเป็น BlackBerry รุ่นแรกที่สามารถบันทึกวิดีโอระดับ HD ผ่านกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลได้ นอกจากนี้ Dakota ยังรองรับ ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6.1 ที่จะมาพร้อมกับ Motion sensor, Accelerometer และ Compass ด้วย ซึ่งคาดว่า Dakota อาจเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน CTIA ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนมีนาคมนี้ หรือไม่ก็อาจจะต้องรอดูกันในงานมหกรรม BlackBerry World Expo ต้นเดือนพฤษภาคมเลยก็ได้ งานนี้สาวก BB ทั้งหลายคงต้องติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวและกำหนดการวางจำหน่ายที่แน่นอนอย่างใกล้ชิดกันต่อไป
BlackBerry Curve 8980
BlackBerry Curve smartphone ราคาสบายกระเป๋าของค่าย RIM ถือว่าได้เป็น BlackBerry ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากรุ่นหนึ่ง สังเกตได้จากยอดขาย BlackBerry Curve 8520 ในบ้านเรา ที่เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าโดยเฉพาะในหมู่ผู้ใช้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาทั้งหลาย ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานล้ำเลิศ บวกกับราคาแค่หมื่นต้นๆ ทำให้ใครหลายคนตัดสินใจที่จะซื้อ BlackBerry ตระกูล Curve มาใช้งานโดยไม่ต้องลังเล นอกจากรุ่น 8520 แล้ว Curve ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น Curve 3G, Curve 8900 และรุ่นล่าสุด Curve 8980
BlackBerry Curve 8980 ถือเป็น BlackBerry ที่พัฒนาและอัพเกรดประสิทธิภาพมาจากรุ่น 8900 ที่เคยได้รับความนิยมมาก่อนหน้านี้นั่นเอง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าลักษณะเด่นของ BlackBerry Curve นั้น อยู่ที่รูปทรงที่โค้งมน ตัวเครื่องที่ค่อนข้างบาง และน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา รวมถึงลักษณะของปุ่มกดที่แต่ละปุ่มแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้ Curve ทุกรุ่นนั้นถึงแม้จะมีปุ่มกดที่เล็ก แต่ผู้ใช้งานกลับสามารถกดปุ่มได้อย่างง่ายดายกว่า BlackBerry ตระกูลอื่นๆ สำหรับหน้าตาของ BlackBerry Curve 8980 นั้น ดูแล้วไม่ต่างจาก BlackBerry Bold 9700 มากนั้น คล้ายกับใช้รูปทรงของรุ่น 9700 แต่ใส่คีย์บอร์ดสไตล์ Curve เข้าไปแทน
ณ ตอนนี้ทาง RIM ยังไม่ได้ทำการจำหน่าย BlackBerry Curve 8980 อย่างเป็นทางการ จึงไม่อาจทราบได้ว่า BlackBerry Curve 8980 นี้จะรองรับระบบปฏิบัติการใหม่ BlackBerry OS6 หรือไม่ แต่ข้อมูลตัวเครื่องอย่างไม่เป็นทางการ BlackBerry Curve 8980 จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ QVGA ที่ความละเอียด 480×360 พิกเซล หน่วยความจำ 256 เมกกะไบต์ และกล้องถ่ายรูปความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช แต่ที่น่าเสียดายคือ BlackBerry Curve 8980 นั้นยังไม่สามารถรองรับ 3G ได้ สำหรับข้อมูลด้าน ราคา BlackBerry Curve 8980 นั้นยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลด้านนี้แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่สนใจ BlackBerry Curve รุ่นนี้แล้วล่ะก็ คงทำได้เพียงแค่คอยติดตามฟังข่าวคราวความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดกันต่อไปเท่านั้นเอง
BlackBerry Curve 8980 ถือเป็น BlackBerry ที่พัฒนาและอัพเกรดประสิทธิภาพมาจากรุ่น 8900 ที่เคยได้รับความนิยมมาก่อนหน้านี้นั่นเอง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าลักษณะเด่นของ BlackBerry Curve นั้น อยู่ที่รูปทรงที่โค้งมน ตัวเครื่องที่ค่อนข้างบาง และน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา รวมถึงลักษณะของปุ่มกดที่แต่ละปุ่มแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้ Curve ทุกรุ่นนั้นถึงแม้จะมีปุ่มกดที่เล็ก แต่ผู้ใช้งานกลับสามารถกดปุ่มได้อย่างง่ายดายกว่า BlackBerry ตระกูลอื่นๆ สำหรับหน้าตาของ BlackBerry Curve 8980 นั้น ดูแล้วไม่ต่างจาก BlackBerry Bold 9700 มากนั้น คล้ายกับใช้รูปทรงของรุ่น 9700 แต่ใส่คีย์บอร์ดสไตล์ Curve เข้าไปแทน
ณ ตอนนี้ทาง RIM ยังไม่ได้ทำการจำหน่าย BlackBerry Curve 8980 อย่างเป็นทางการ จึงไม่อาจทราบได้ว่า BlackBerry Curve 8980 นี้จะรองรับระบบปฏิบัติการใหม่ BlackBerry OS6 หรือไม่ แต่ข้อมูลตัวเครื่องอย่างไม่เป็นทางการ BlackBerry Curve 8980 จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ QVGA ที่ความละเอียด 480×360 พิกเซล หน่วยความจำ 256 เมกกะไบต์ และกล้องถ่ายรูปความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช แต่ที่น่าเสียดายคือ BlackBerry Curve 8980 นั้นยังไม่สามารถรองรับ 3G ได้ สำหรับข้อมูลด้าน ราคา BlackBerry Curve 8980 นั้นยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลด้านนี้แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่สนใจ BlackBerry Curve รุ่นนี้แล้วล่ะก็ คงทำได้เพียงแค่คอยติดตามฟังข่าวคราวความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดกันต่อไปเท่านั้นเอง
The Comparison Between Bold 9700 And 9780
ยุคนี้ดูเหมือน Smartphone จะเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นจนกระทั่งแซงหน้าโทรศัพท์มือถือประเภท PDA phone
ที่หลายคนมองว่ามันมีขนาดใหญ่เกินไปไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง Smartphone ที่น่าจับจามองคงจะหนีไม่ผลโทรศัพท์มือถือ BlackBerry แบรนด์ดังจากค่าย RIM ที่เข้าคิวทยอยกันออกมาให้เราได้จับจองเป็นเจ้าของกันอย่างมากมายหลายต่อหลายรุ่น
เมื่อปลายปี 2553 หลายคนคงมีโอกาสได้ยลโฉมและจังจองเป็นเจ้าของ BlackBerry 9800 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่ BlackBerry 9800 ราคา
เครื่องศูนย์นั้นอยู่ที่ 21,900 บาท มาปี 2554 RIM ก็ยังไม่หยุดเอาใจผู้ที่ชื่นชอบ BlackBerry สไตล์เดิมๆ ด้วยการพัฒนา BlackBerry Bold 9700 ให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถด้วยการนำระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS6 เข้ามาใช้กับ BlackBerry Bold 9780 โทรศัพท์มือถือที่มองยังไงก็ดูคล้าย Bold 9700 เสียเหลือเกิน ทั้งขนาดและน้ำหนักที่เท่ากันทุกประการ หากแต่ว่าในความเหมือนนั้น กลับมีความแตกต่างที่น่าสนใจซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้ Bold 9780 แตกต่างจาก Bold 9700 ก็คือระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS6 นั่นเอง ซึ่งใน Bold 9700 นั้นใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry เพียง OS5 เท่านั้น การที่ Bold 9780 ใช้ OS เวอร์ชั่นใหม่นี้ เป็นผลทำให้ RIM ออกแบบให้ Bold 9780 ให้มีพื้นที่หน่วยความจำ หรือ Memory เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เนื่องมาจาก OS6 กินพื้นที่หน่วยความจำข้อมูลมากกว่าเดิมค่อนข้างมากนั่นเอง จึงทำให้ Bold 9870 มี Memory มากขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า จาก 256 เมกกะไบต์ เป็น 512 เมกกะไบต์ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการลงแอพพลิเคชันหลายตัวแล้วทำให้เครื่องช้าหมดไป รวมถึงการใช้งานทั่วไปของเครื่องยังเร็วขึ้นกว่า Bold ตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
ส่วนความพิเศษอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ที่เพิ่มเข้ามา ก็คือกล้องถ่ายภาพที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีความเอียดเพียงแค่ 3.2 ล้านพิกเซล กลายเป็น 5 ล้านพิกเซล ตามคำเรียกร้องของผู้ใช้ BlackBerry ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป และรู้สึกว่าความละเอียดเพียงแค่ 3.2 ล้านพิกเซลนั้น คงจะไม่เพียงพอเสียแล้ว
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ BlackBerry รูปแบบเดิมๆ อย่าง Bold 9700 และสนใจที่จะทดลองระบบปฏิบัติการตัวใหม่ BlackBerry OS6 ว่าจะเร็วแค่ไหนก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้ว ซึ่ง ราคา BlackBerry Bold
9780 เครื่องศูนย์ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 17,900 บาท
ที่หลายคนมองว่ามันมีขนาดใหญ่เกินไปไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง Smartphone ที่น่าจับจามองคงจะหนีไม่ผลโทรศัพท์มือถือ BlackBerry แบรนด์ดังจากค่าย RIM ที่เข้าคิวทยอยกันออกมาให้เราได้จับจองเป็นเจ้าของกันอย่างมากมายหลายต่อหลายรุ่น
เมื่อปลายปี 2553 หลายคนคงมีโอกาสได้ยลโฉมและจังจองเป็นเจ้าของ BlackBerry 9800 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่ BlackBerry 9800 ราคา
เครื่องศูนย์นั้นอยู่ที่ 21,900 บาท มาปี 2554 RIM ก็ยังไม่หยุดเอาใจผู้ที่ชื่นชอบ BlackBerry สไตล์เดิมๆ ด้วยการพัฒนา BlackBerry Bold 9700 ให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถด้วยการนำระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS6 เข้ามาใช้กับ BlackBerry Bold 9780 โทรศัพท์มือถือที่มองยังไงก็ดูคล้าย Bold 9700 เสียเหลือเกิน ทั้งขนาดและน้ำหนักที่เท่ากันทุกประการ หากแต่ว่าในความเหมือนนั้น กลับมีความแตกต่างที่น่าสนใจซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้ Bold 9780 แตกต่างจาก Bold 9700 ก็คือระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS6 นั่นเอง ซึ่งใน Bold 9700 นั้นใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry เพียง OS5 เท่านั้น การที่ Bold 9780 ใช้ OS เวอร์ชั่นใหม่นี้ เป็นผลทำให้ RIM ออกแบบให้ Bold 9780 ให้มีพื้นที่หน่วยความจำ หรือ Memory เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เนื่องมาจาก OS6 กินพื้นที่หน่วยความจำข้อมูลมากกว่าเดิมค่อนข้างมากนั่นเอง จึงทำให้ Bold 9870 มี Memory มากขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า จาก 256 เมกกะไบต์ เป็น 512 เมกกะไบต์ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการลงแอพพลิเคชันหลายตัวแล้วทำให้เครื่องช้าหมดไป รวมถึงการใช้งานทั่วไปของเครื่องยังเร็วขึ้นกว่า Bold ตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
ส่วนความพิเศษอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ที่เพิ่มเข้ามา ก็คือกล้องถ่ายภาพที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีความเอียดเพียงแค่ 3.2 ล้านพิกเซล กลายเป็น 5 ล้านพิกเซล ตามคำเรียกร้องของผู้ใช้ BlackBerry ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป และรู้สึกว่าความละเอียดเพียงแค่ 3.2 ล้านพิกเซลนั้น คงจะไม่เพียงพอเสียแล้ว
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ BlackBerry รูปแบบเดิมๆ อย่าง Bold 9700 และสนใจที่จะทดลองระบบปฏิบัติการตัวใหม่ BlackBerry OS6 ว่าจะเร็วแค่ไหนก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้ว ซึ่ง ราคา BlackBerry Bold
9780 เครื่องศูนย์ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 17,900 บาท
BlackBerry Curve 9300 (3G)
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า BlackBerry Curve 8520 นั้นถือเป็นโทรศัพท์มือถือ BlackBerry ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงมากรุ่นหนึ่งในประเทศไทย ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่เป็นรองใคร บวกกับราคาจำหน่ายที่ค่อนข้างถูก จนกระทั่งใครหลายคนเลือกที่จะเป็นเจ้าของเจ้า BlackBerry Curve 8520 นี้ด้วยความที่มันคุ้มค่าคุ้มราคานั่นเอง
มาวันนี้ RIM ได้เปิดตัว BlackBerry Curve 9300 หรือ BlackBerry Curve 3G อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยทั้งหลายต่างก็ไม่รอช้าที่จะนำเจ้า BlackBerry Curve 3G นี้เข้ามาวางจำหน่าย พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมายที่ใครหลายคนคงยากที่จะอดใจไหว
BlackBerry Curve 3G ถือเป็น โทรศัพท์ BlackBerry Curve smartphone รุ่นหนึ่งที่ผลิตมาเพื่อเตรียมรองรับกับการใช้งานระบบ 3G ที่อาจจะกำลังมีขึ้นในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่ง BlackBerry Curve 3G นี้ถือได้ว่าเป็น BlackBerry รุ่นที่พัฒนามาจาก BlackBerry Curve รุ่น 8520 นั่นเอง สังเกตได้จากลักษณะการดีไซน์ของตัวเครื่องด้วยรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายคลึงกัน หากแต่แตกกันที่วัสดุที่นำมาประกอบ รวมถึงการรองรับระบบ 3G ฟังก์ชัน GPS ในตัวและการรองรับระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS6 ที่ทั้งรวดเร็วและทันสมัยมากขึ้น ส่วนความสามารถด้านอื่นนั้น ก็คงไม่ต่างจากรุ่น 8520 มากนัก ทั้งหน้าจอขนาด 320×240 พิกเซล TFT LCD 65,000 สี คีย์บอร์ดแบบ full QWERTY พร้อม trackpad กับกล้องที่มีความละเอียดถึง 2 ล้านพิกเซล แต่ก็น่าเสียดายที่ฟิกโฟกัสและไม่มีไฟแฟลชในตัว อีกทั้งมีหน่วยความจำภายในตัวเครื่องเพียง 256 MB เท่านั้น
ณ ตอนนี้ ราคา BlackBerry Curve 3G เครื่องศูนย์อยู่ที่ 12,500 บาท ถ้าเทียบกับความสามารถที่เพิ่มขึ้น กับราคาเพียงหมื่นต้นๆ คงเรียกได้ว่าคุ้มค่ามิใช่น้อยเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจก็สามารถจับจองเจ้า BlackBerry Curve 3G ไว้เป็นเจ้าของได้ตามศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศไทยค่ะ
มาวันนี้ RIM ได้เปิดตัว BlackBerry Curve 9300 หรือ BlackBerry Curve 3G อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยทั้งหลายต่างก็ไม่รอช้าที่จะนำเจ้า BlackBerry Curve 3G นี้เข้ามาวางจำหน่าย พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมายที่ใครหลายคนคงยากที่จะอดใจไหว
BlackBerry Curve 3G ถือเป็น โทรศัพท์ BlackBerry Curve smartphone รุ่นหนึ่งที่ผลิตมาเพื่อเตรียมรองรับกับการใช้งานระบบ 3G ที่อาจจะกำลังมีขึ้นในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่ง BlackBerry Curve 3G นี้ถือได้ว่าเป็น BlackBerry รุ่นที่พัฒนามาจาก BlackBerry Curve รุ่น 8520 นั่นเอง สังเกตได้จากลักษณะการดีไซน์ของตัวเครื่องด้วยรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายคลึงกัน หากแต่แตกกันที่วัสดุที่นำมาประกอบ รวมถึงการรองรับระบบ 3G ฟังก์ชัน GPS ในตัวและการรองรับระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS6 ที่ทั้งรวดเร็วและทันสมัยมากขึ้น ส่วนความสามารถด้านอื่นนั้น ก็คงไม่ต่างจากรุ่น 8520 มากนัก ทั้งหน้าจอขนาด 320×240 พิกเซล TFT LCD 65,000 สี คีย์บอร์ดแบบ full QWERTY พร้อม trackpad กับกล้องที่มีความละเอียดถึง 2 ล้านพิกเซล แต่ก็น่าเสียดายที่ฟิกโฟกัสและไม่มีไฟแฟลชในตัว อีกทั้งมีหน่วยความจำภายในตัวเครื่องเพียง 256 MB เท่านั้น
ณ ตอนนี้ ราคา BlackBerry Curve 3G เครื่องศูนย์อยู่ที่ 12,500 บาท ถ้าเทียบกับความสามารถที่เพิ่มขึ้น กับราคาเพียงหมื่นต้นๆ คงเรียกได้ว่าคุ้มค่ามิใช่น้อยเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจก็สามารถจับจองเจ้า BlackBerry Curve 3G ไว้เป็นเจ้าของได้ตามศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศไทยค่ะ
Assinar:
Postagens (Atom)
Postagens
